เอเซอร์ตั้งเป้าผู้นำสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์

เอเซอร์มั่นใจสร้างชื่อในตลาดสมาร์ทโฟนได้ไม่ยาก คาดสิ้นปีมีส่วนแบ่งในตลาด 15% นั่งแท่นผู้นำ 1ใน3 ในตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ หวังใช้ประสบการณ์ในวงการคอมพ์สร้างชื่อให้ผู้ใช้เรียกหาสมาร์ทโฟนเอเซอร์ ถึงสิ้นปีนี้จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนกว่า 20 รุ่น ประเดิมด้วย Acer Liquid Mini 5 สีสันสดใส
นายบุญชัย เงาวิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปจะเห็นการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าตลาดรวมสมาร์ทโฟนทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ประมาณ 7 แสนเครื่อง เฉพาะในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเอเซอร์สมาร์ทโฟนมีการเติบโตถึง 400% และตั้งเป้าว่าจะเป็น 1 ใน 5 ของผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้ที่ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% และติดอันดับ 1 ใน 3 เฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในปีนี้เช่นเดียวกัน

เอเซอร์ยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Acer Liquid Mini ขนาดกระทัดรัด 5 สีสดใส พกพาสะดวก พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่จากวงซูเปอร์จูเนียร์ 'ชเว ซีวอน'

นายบุญชัย กล่าวว่าเอเซอร์สร้างชื่อในวงการคอมพิวเตอร์มานาน สมาร์ทโฟนก็คือคอมพิวเตอร์โฟนที่ย่อส่วนลงมาและเคลื่อนที่ได้ ความยากตอนนี้คือการทำให้คนรู้จักเอเซอร์มากขึ้น เพื่อที่เมื่อต้องการสมาร์ทโฟนต้องเลือกเอเซอร์ก่อน โดยในปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกกว่า 20 รุ่น เริ่มจากAcer Liquid Mini ที่จะทำตลาดในราคา 7,990 บาท คาดว่าจะทำตลาดได้ประมาณ 15,000 เครื่อง ภายใต้งบการตลาดปีนี้ที่ประมาณ 450 ล้านบาท

ในปี2010 ที่ผ่านมาเอเซอร์มีรายได้จากสมาร์ทโฟนประมาณ 3% จากรายได้รวมทั้งหมด ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10%

'เรื่องช่องทางการตลาดสำคัญมาก ทุกวันนี้ลูกค้ารู้ว่าถ้าต้องการซื้อคอมพิวเตอร์เอเซอร์จะซื้อได้ที่ช้อปเอเซอร์ เราต้องการให้เขารับรู้ได้เช่นกันว่าเมื่อต้องการสมาร์ทโฟนเอเซอร์จะซื้อได้ที่ไหนเช่นกัน'

นางสาวสุภาพร ลือพร้อมชัย ผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์กลุ่มดิจิตอล ดิสเพลย์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า Acer Liquid Mini ถูกออกแบบให้มีสไตล์โค้งมน สีสันสดใสที่มีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน, ฟ้า, เขียว, ชมพู และสีดำ มาพร้อมกับหน้าจอ LCD Capacitive Touch Screen HVGA ขนาด 3.2นิ้ว ความละเอียด480x 320พิกเซล พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.2 (Froyo) รองรับหน่วยความจำสูงสุด 32GB กล้องคมชัดระดับ 5ล้านพิกเซล พร้อมเข้าชมความบันเทิงแบบมัลติมีเดียภายในบ้านได้อย่างง่ายดายจากนวัตกรรม Acer Clear.fi
เอเซอร์ตั้งเป้าผู้นำสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

HTC Thunderbolt 4G แอนดรอยด์พลังแรงสูงจาก Verizon

Verizon เปิดตัว HTC Thunderbolt แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.2 ที่มาพร้อมขุมกำลังหน่วยประมวลผล 1GHz ช่วยให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จอแสดงผลระบบสัมผัส Flatscreen กว้าง 4.3 นิ้ว เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยระบบ 4G LTE 700, CDMA รองรับความบันเทิงอย่างครบครันทั้ง ภาพยนตร์, E - Books, เกมส์, เพลง พร้อมเชื่อม DLNA เพื่อเล่นไฟล์ต่างๆ ใน HTC Thunderbolt ที่อุปกรณ์อื่นๆ เช่น TV, คอมพิวเตอร์ผ่าน WiFi กล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และบันทึกวิดีโอในระดับ HD 720P
คุณสมบัติโทรศัพท์มือถือ HTC Thunderbolt 4G

รองรับเครือข่าย 4G LTE 700, CDMA EvDO revA
- ช่องใส่ซิมรูปแบบ LTE SIM slot
จอแสดงผลระบบสัมผัส กว้าง 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800x 480 พิกเซล
- รูปแบบการใช้งานหน้าจอหลัก HTC Sense
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (G-Sensor)
- ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity Sensor)
ระบบปฏิบัติการ : Android 2.2 Froyo
หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8655, 1GHz
หน่วยความจำ 8 GB (ตัวเครื่อง)
- หน่วยความจำ Ram 768 MB
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
การเชื่อมต่อ WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN), DLNA
- Bluetooth 2.1 + EDR, MicroUSB
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In GPS, A-GPS navigation)
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
กล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องตัวที่สอง 1.3 ล้านพิกเซล (Front Camera)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Playback)
เครื่องเล่นเพลง (Music player)
- ระบบเสียง Surround sound และ TI audio DSP
วิทยุ FM Radio
ชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ลดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา (Dual microphone noise cancellation)
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,400 mAh (Standard Battery)

HTC Thunderbolt 4G แอนดรอยด์พลังแรงสูงจาก Verizon
ที่มา siamphone

แอนดรอยด์ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1

แอนดรอยด์ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1
ผลงานวิจัยการตลาดล่าสุดในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่าระบบแอนดรอยด์ หรือ ซอฟต์แวร์มือถืออัจฉริยะแบบเปิด เอาชนะแบล็กเบอรี่ และไอโฟนไปเรียบร้อยในสหรัฐอเมริกา ผงาดขึ้นเป็นอับดับ 1แอนดรอยด์เป็นระบบซอฟต์แวร์มือถืออัจฉริยะซึ่งเป็นผลมาจากแนวคิดในการสร้างซอฟต์แวร์มาตรฐานแบบเปิด เพื่อให้ใช้กับมือถืออัจฉริยะ โดยยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของโลกเกือบ 10 แห่ง นำโดยกูเกิ้ล เมื่อประมาณกว่า 2 ปีมาแล้ว ซึ่งหาอ่านได้จากบทความของผมในเดลินิวส์เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เรื่องแอนดรอยด์

หลังจากออกสู่ตลาดแข่งกับแอปเปิ้ลซึ่งมี สตีฟ จ๊อบส์ เป็นผู้นำในการคิดค้นมือถืออัจฉริยะ ตั้งแต่แบล็กเบอรี่จนกระทั่งไอโฟนและไอแพดออกมาอีกหลายรุ่น แอนดรอยด์ใช้เวลาเพียง 27 เดือน ก็แซงหน้าผู้นำอัจฉริยะอย่าง สตีฟ จ๊อบส์ ไปเรียบร้อย ก็ยืนยันว่า ซอฟต์แวร์ระบบเปิดให้ใครใช้ประยุกต์ทำก็ได้ ดีกว่าแอบคิดทำเจ้าเดียวแล้วไปจดลิขสิทธิ์ทำกำไรแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนสาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า ทำไมแอนดรอยด์จึงมียอดขายพุ่งแซงคู่แข่งอย่างแอปเปิ้ลได้อย่างรวดเร็วนั้น มีเหตุผลอยู่ 5 ประการด้วยกันคือ

1.ผู้บริโภคนิยมมีของให้เลือกมากกว่า เพราะไอโฟนถือว่าเป็นหนึ่งเดียว แต่กรณีแอนดรอยด์ก็มีให้เลือกนับสิบ จากตัวเลขสถิติล่าสุดที่สำรวจในท้องตลาดจนถึงเดือนมกราคมที่ผ่านมาปีนี้ ปรากฏว่ามีมือถืออัจฉริยะที่ใช้สำหรับแอนดรอยด์ 74 รุ่น ที่เป็นของกูเกิ้ลแอนดรอยด์ แต่ของแอนดรอยด์ทุกบริษัทรวมกันมีถึง 170 รุ่น ให้เลือกในท้องตลาด ส่วนไอโฟนจะออกตัวแต่ละรุ่นใช้เวลา เช่น ล่าสุดเป็นเวริซอนไอโฟน 4 เพราะฉะนั้นทางเลือกจึงไม่มาก
2.การบูรณาการร่วมกับระบบอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นของกูเกิ้ลเอง ร่วมกับเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ได้ง่ายกว่าเพราะออกแบบมาเป็นระบบเปิดจึงทำให้ได้รับความนิยมสูงกว่าในช่วงสั้น ๆ
3.ระบบเปิดของตลาดแอนดรอยด์ทำให้บริษัทต่าง ๆ หลายบริษัทสามารถใส่ “แอพส์” หรือ แอพพลิเคชั่นได้มากและหลากหลายมากกว่าแอปเปิ้ลมาก
4.แอพพลิเคชั่น เป็นที่ต้องการของผู้ใช้มากแต่ก็ไม่ฟุ่มเฟือย แต่กรณีของแอนดรอยด์มี แอพส์ (Apps) น้อยกว่า แอปเปิ้ล มากแต่ทุกแอพส์จะเป็นตามความต้องการของผู้ใช้มากกว่า คือ แอนดรอยด์ มี 150,000 แอพส์ แต่แอปเปิ้ลมีถึง 350,000 แอพส์ ซึ่งมีหลายอันที่ผู้ใช้ไม่มีโอกาสได้ใช้เลย
5.นำของที่ดีที่สุดมาจากทุกค่ายแล้วนำเสนอสู่ท้องตลาด เพราะกูเกิ้ลเองไม่ได้หวงซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการมือถืออัจฉริยะ คือนำไปใช้ได้โดยไม่คิดเงิน ใครอยากจะมีอะไรต่อเติมเพื่อสร้างมือถืออัจฉริยะให้มีลูกเล่นน่าใช้อย่างไร ก็สามารถทำได้ ไม่เหมือนกับแอปเปิ้ล จะไปแตะต้องซอฟต์แวร์ของเขา แอปเปิ้ลคงคิดค่า “สมองอัจฉริยะ” ของ สตีฟ จ๊อบส์ แพงมาก
ว่ากันไปแล้ว แอนดรอยด์ก็ใช้แนวคิด “ระบบเปิด” นั่นเอง จึงแซงแอปเปิ้ลไปได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งในบทความเดิมเรื่อง “แอนดรอยด์” ที่ผมเคยเขียนไว้เมื่อประมาณ 2 ปี เขาก็ได้มีคำพยากรณ์ไว้ พูดภาษาชาวบ้านก็คือ แบ่งกันทำมาหากินดีกว่ากินทำกินรวบรายเดียว

รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stamford.edu
แอนดรอยด์ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1
ที่มา siamphone

Samsung Galaxy Pro แอนดรอยด์ QWERTY

Samsung Galaxy Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่แห่งสายกาแล็กซี่ ดีไซน์รูปทรงแท่งมาพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY 4 แถวในตัว หน้าจอสัมผัส ขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล รูปแบบการแสดงผล TouchWiz UI ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 2.2 ใช้หน่วยประมวลผล ความเร็ว 800 MHz กล้องถ่ายรูป 3 ล้านพิกเซล สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi เข้าถึงทุกความเคลื่อนไหวของสังคมออนไลน์ในที่เดียว ผ่าน Social Hub Premium เตรียมวางจำหน่ายช่วงไตรมาส 2 ในประเทศอังกฤษก่อนส่งต่อสู่ประเทศในแถบยุโรป, ตะวันออกกลาง, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย
Samsung Galaxy Pro แอนดรอยด์ QWERTY
ที่มา siamphone

ค่าย INQ นำเสนอมือถือสำหรับคอโซเชียลเน็ตเวิร์คใหม่ถึง 2 รุ่น

หลังจากมีข่าวลืออกมาได้พักใหญ่ ในที่สุดทางค่ายก็ได้ปล่อยโทรศัพท์มือถือที่ถือเป็นเจ้าแรกที่ใช้อินเตอร์เฟสเมนูที่แสดงผลด้วยธีม Facebook อย่างเต็มตัว กับรุ่น Cloud Touch และ Cloud Q ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo โดยที่ตัว Cloud Q นั้นจะมากับแป้นคีย์บอร์ด QWERTY ในตัว ส่วนตัว Cloud Touch นั้นจะเป็นหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล โดยทั้งสองรุ่นจะมีสเปกเครื่องอื่นๆ เหมือนกันคือมีหน่วยความจำภายในให้ 4 MB รวมถึงสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้แต่ก็จะมีที่แถมมาให้ 4 GB ในกล่องชุดขาย ใช้ซีพียู Qualcomm MSM7227 ความเร็ว 600 Mhz เหมือนกับมือถือแอนดรอยด์ทั่วๆ ไปก็คือจะรองรับ 3G-HSDPA Tri-band และ ระบบ GSM Quad-band/GPRS/EDGE แถม INQ Cloud นั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi, Bluetooth และ GPS ได้ตามมาตรฐาน รวมถึงในตัวเครื่องนั้นยังติดเซ็นเซอร์ครบชุดไม่ว่าจะเป็นเซ็นต์เซอร์ปรับแสงจออัตโนมัติ, เซ็นเซอร์หมุนกลับหน้าจอ และตัวเข็มทิศดิจิตอลในตัว แล้วก็ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซลให้เป็นของแถมด้วย
ทั้งนี้มือถือ INQ ยังเผยอีกว่าในอนาคตนั้นยังมีรุ่นที่รองรับ Gingerbread OS ออกมาอีกด้วย แต่ก็ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าจะเป็นเมื่อไหร่ โดย INQ นั้นจะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น ด้วยตัวเครื่องสีสันสดใจ แถมยังเอาใจคอโซเชียลเน็ตเวิร์คด้วย อินเตอร์เฟสเมนูที่แสดงผลสำหรับสาวก Facebook อย่างเต็มตัวด้วยการใช้รูปแบบของ Facebook Social Graph API ที่ช่วยให้เราสามารถตั้งค่าแสดง Widget บนหน้าจอแสดงผลไม่ว่าจะเป็นข่าว, กิจกรรม หรือเรื่องที่น่าสนใจต่างๆ รวมถึงมีระบบเตือนข้อความสั้นของ Facebook เข้ามาได้เหมือนกับที่เราใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลา ลักษณะก็จะคล้ายๆ BlackBerry แต่นี่จะเป็นรูปแบบของ Facebook เสียมากกว่า ส่นสนนราคานั้นจะอยู่ที่ปรพมาณ 250 เหรียญ หรือประมาณ 7,500 บาท มีสามสีให้เลือกคือ ดำ, ขาว และแดง มีกำหนดจะวางจำหน่ายช่วงไตรมาสที่ 3 ในสหราชอาณาจักรก่อน
ที่มา Mobilemag

Samsung Galaxy S WiFi เครื่องเล่น PMP หัวใจแอนดรอยด์

Samsung Galaxy S WiFi เครื่องเล่น PMP หัวใจแอนดรอยด์
นอกจาก Samsung จะผลิต Galaxy S ออกมาในรูปแบบสมาร์ทโฟนแล้ว ก็ยังมี Galaxy S ในรูปแบบ PMP หรือเครื่องเล่นมีเดียพกพาอีกด้วย โดยผลิตออกมาให้เลือกถึง 2 รุ่น คือ Samsung Galaxy S WiFi 5.0 และ Samsung Galaxy S WiFi 4.0 โดยทั้งคู่มากับระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo หน่วยประมวลผล 1 GHz ส่วนคุณสมบัติที่มีมาให้ จะแตกต่างกันขนาดไหน ติดตามได้จากรายละเอียดด้านล่าง

คุณสมบัติ Samsung Galaxy S WiFi 4.0

จอแสดงผล Super Clear LCD ความละเอียด WVGA – 800 x 480 พิกเซล กว้าง 4 นิ้ว
ระบบเซนเซอร์ Accelerometer, Digital Compass
ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo
หน่วยประมวลผล 1 GHz
หน่วยความจำ 8 / 16 / 32 GB
การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32 GB
การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 3.0, USB 2.0
กล้องด้านหลัง 3.2 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส
กล้องด้านหน้า ความละเอียด VGA
รองรับไฟล์เสียง MP3, WMA9, Ogg, Flac, AAC
รองรับไฟล์วีดีโอ MPEG4, H.264, DivX, XviD, WMV
เครื่องเล่นวีดีโอ ความละเอียด HD 720p (30 เฟรมต่อวินาที)
เครื่องเล่นวิทยุ FM ระบบเสียง Stereo
ชุดหูฟัง ขนาดแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร
เครื่องบันทึกเสียง
ระบบนำทาง GPS
สนับสนุน VoIP ผ่าน Skype และ สนทนาแบบเห็นหน้าบนเครือข่าย WiFi
รองรับแอพพลิเคชั่น Twitter, Facebook, Qik
รองรับแอพพลิเคชั่นจากกูเกิ้ล (Google Mobile Services)
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม (Android market)
โปรแกรมอ่านและแก้ไขงานเอกสาร (ThinkFree)
ขนาด 123.7 x 64.2 x 9.9 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่ 1200 mAh

ที่มา siamphone

BeeWi BBZ201 มินิคูเปอร์จิ๋วบังคับด้วยมือถือแอนดรอยด์

BeeWi BBZ201 เป็นของเล่นสำหรับเจ้าของมือถือ Android ที่ต้องการใช้สมาร์ทโฤนในการควบคุมรถบังคับขนาดเล็ก โดยอินเตอร์เฟซระบบสัมผัสที่ให้คุณสามารถควบคุมพวงมาลัยให้รถบังคับวิ่งไปในทิศทางต่างๆ ได้ตามต้องการ เพียงแค่จับมือของคุณเอียงไปมาเท่าน้น แอพพลิเคชันจะตราจจับค่า accelerometer เพื่อส่งเป็นคำสั่งผ่าน Bluetooth ไปยังรถมินิคูเปอร์จิ๋วให้ซิ่งซ้ายขวาเดินหน้าถอยหลังได้ดังใจ แบบว่า เห็นแล้วอดนึกถึงฉากที่เจมส์บอนด์นอนอยู่บเบาะหลังแล้วใช้มือถือบังคับ BMW ซีรียส์ 7 ไม่ได้จริงๆ
BeeWi BBZ201 รถบังคับมินิคูเปอร์จิ๋วคันนี้ทำงานด้วยแบตเตอรี่ AA 3 ก้อน ใช้เล่นต่อเนื่องได้นาน 3 ชั่วโมง สามารถควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.1 ขึ้นไป หรือ Nokia Symbian S60 (เอดิชั่น 3 หรือ 5) น่าเสียดายที่ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราคา แต่ดูจากดีไซน์แล้วราคาคงจะไม่เบา
ที่มา Arip

LG Optimus Pad แอนดรอยด์แท็บเล็ท มาพร้อมกล้อง 3 มิติ

แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ใช้โอกาสงาน Mobile World Congress 2011 ที่ผ่านมา เปิดตัวคอมพิวเตอร์แท็บเล็ท LG Optimus Pad ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ใช้จอแสดงผล ระบบสัมผัส ความละเอียด WXGA - 1280 x 768 พิกเซล กว้าง 8.9 นิ้ว แสดงภาพในอัตราส่วน 15:9 รองรับวีดีโอ Full HD 1080p ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Dual-core 1 GHz (NVIDIA Tegra 2)
ด้านหลังมาพร้อมกับ กล้องถ่ายรูปคู่ สามารถบันทึกภาพในระบบ 3 มิติ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สนับสนุนการเชื่อมต่อ HDMI สำหรับรับชมผ่านทีวี 3 มิติ หรือ ส่งภาพออนไลน์ผ่าน YouTube 3D นอกจากนี้ยังรองรับแอพพลิเคชั่น Google eBooks, Google Maps 5 และ Google Talk
LG Optimus Pad แอนดรอยด์แท็บเล็ท มาพร้อมกล้อง 3 มิติ
ที่มา siamphone

"BBM"พร้อมแจ้งเกิดในไอโฟน-แอนดรอยด์?

รูปแบบการใช้บริการรับส่งข้อความทันใจ BlackBerry Messenger ในบีบี


ในนาทีที่โปรแกรมแชตข้ามสายพันธุ์ระบบปฏิบัติการ"บีบี-แอนดรอยด์-ไอโฟน"ได้รับความนิยมถล่มทลาย ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ผลิตบีบีกำลังเตรียมตัวลงมาเล่นในตลาดนี้ด้วยตัวเอง โดยจะส่งโปรแกรมยอดดวงใจของสาวกบีบี "BlackBerry Messenger" มาให้ผู้ใช้ไอโฟนและสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สามารถโหลดไปเพื่อรับส่งข้อความทันใจได้อย่างประหยัดและปลอดภัย

สำนักข่าว BGR อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในบริษัทรีเสิร์ชอินโมชัน (Research In Motion) หรือริม ว่าผู้ผลิตแบล็กเบอรี่ (บีบี) รายนี้กำลังมีแผนพัฒนาแอปพลิเคชันรับส่งข้อความบนบีบีซึ่งถูกเรียกในชื่อบีบีเอ็ม (BlackBerry Messenger) เวอร์ชันพิเศษเพื่อรองรับผู้ใช้ไอโฟนและสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อย่างเป๊นทางการ โดยแหล่งข่าวซึ่งสำนักข่าว BGR ยืนยันว่ามีหลายรายและเชื่อถือได้ ระบุว่าผู้ใช้ไอโฟนและแอนดรอยด์จะสามารถรับส่งได้เฉพาะข้อความบนบีบีเอ็ม ไม่สามารถรับส่งข้อมูลรูปภาพ ตำแหน่งแผนที่ รวมถึงวิดีโอได้ เท่ากับประสบการณ์ครบวงจรบนบีบีเอ็มจะยังคงถูกสงวนไว้สำหรับผู้ใช้บีบีเท่านั้น

ต้องยอมรับว่าบีบีเอ็มคือคุณสมบัติจุดขายของบีบี เพราะผู้ใช้บีบีส่วนใหญ่ต้องการความสามารถในการรับส่งข้อความถึงกันได้แบบเรียลไทม์ทันใจโดยไม่จำกัดความยาว ผู้ส่งสามารถรับรู้ทันทีว่าข้อความถูกเปิดอ่านแล้ว โดยสามารถสื่อสารกันได้เป็นกลุ่มในเวลาพร้อมกัน และอีกหลายคุณสมบัติที่ไม่มีในเอสเอ็มเอสปกติ

ข้อมูลจากแหล่งข่าวนิรนามนี้มีโอกาสเป็นเรื่องจริงสูง เนื่องจากนักพัฒนารู้ว่าผู้ใช้ไอโฟนและแอนดรอยด์จะชื่นชอบเพียงไรหากสามารถใช้การรับส่งข้อความทันใจถึงกันได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องคำนึงว่าใช้ระบบปฏิบัติการใดอยู่ ทำให้ขณะนี้ผู้ผลิตแอปพลิเคชันรายอื่นได้ชิงตัดหน้าให้บริการรับส่งข้อความทันใจข้ามแพลตฟอร์มแล้ว หนึ่งในนั้นคือ WhatsApp ซึ่งความนิยมของ WhatsApp มีส่วนทำให้สัดส่วนผู้ใช้บีบีเอ็มน้อยลง และทำให้เหตุผลในการเลือกใช้บีบีเพราะบีบีเอ็มถูกลดน้ำหนักลงด้วย

ทางออกที่ริมมีในขณะนี้จึงเป็นการเข้ามาแย่งตลาดคืนจากค่ายแอปพลิเคชันอิสระ โดยยังไม่มีความแน่ชัดว่าริมจะเปิดให้ผู้บริโภคโหลดโปรแกรมบีบีเอ็มได้ฟรีแล้วจึงคิดค่าสมาชิกรายเดือน หรือจะเปิดจำหน่ายโปรแกรมบีบีเอ็มโดยผู้บริโภคไม่ต้องเสียค่าสมาชิกเพิ่มเติม

นอกจากนี้ หากริมเปิดตัวบีบีเอ็มเวอร์ชันเปิดเสรีจริง จะทำให้ริมสามารถขยายฐานสาวกบีบีเอ็มได้อีก โดยเฉพาะในตลาดแอนดรอยด์ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าแอนดรอยด์สามารถครองเบอร์ 1 ส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯได้แล้วในเดือนมกราคม 2011 ที่ผ่านมา ชนะทั้งไอโฟนและบีบีเรียบร้อยด้วยส่วนแบ่งตลาด 29% เทียบกับไอโฟนและบีบีที่มีรายละ 27%

บริษัทวิจัย Nielsen Wire ระบุว่าในตลาดสมาร์ทโฟน แอปเปิลและริมก็ยังคงเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 และ 2 ที่จัดส่งสินค้ามากที่สุดในสหรัฐฯ โดยเอชทีซี (HTC) ยักษ์ใหญ่ในโลกแอนดรอยด์สามารถผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตอันดับ 3 ที่ชนะทั้งโมโตโรลาและซัมซุงได้ โดยเอชทีซีสามารถครองส่วนแบ่งตลาด 19% แบ่งเป็น 12% ในตลาดแอนดรอยด์ และ 7% ในตลาดวินโดวส์โมบาย

สำหรับอดีตยักษ์ใหญ่อย่างโมโตโรลาสามารถครองสัดส่วน 11% ของตลาดสมาร์ทโฟนรวมในสหรัฐฯ แบ่งเป็น 10% จากตลาดแอนดรอยด์และ 1% จากตลาดวินโดวส์โฟนเซเว่น (WP7) และวินโดวส์โมบาย ขณะที่ซัมซุงทำได้ 7% แบ่งเป็น 5% ในแอนดรอยด์และ 2% ในวินโดวส์

การสำรวจพบว่าแอนดรอยด์มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น โดยผู้บริโภคในกลุ่ม 18-24 ปีมีสัดส่วนเป็นลูกค้าแอนดรอยด์ราว 6% เทียบกับไอโฟนและบีบีที่สัดส่วนอยู่ที่ 4%
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

รายการบล็อกของฉัน