ผลงานวิจัยการตลาดล่าสุดในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่าระบบแอนดรอยด์ หรือ ซอฟต์แวร์มือถืออัจฉริยะแบบเปิด เอาชนะแบล็กเบอรี่ และไอโฟนไปเรียบร้อยในสหรัฐอเมริกา ผงาดขึ้นเป็นอับดับ 1

หลังจากออกสู่ตลาดแข่งกับแอปเปิ้ลซึ่งมี สตีฟ จ๊อบส์ เป็นผู้นำในการคิดค้นมือถืออัจฉริยะ ตั้งแต่แบล็กเบอรี่จนกระทั่งไอโฟนและไอแพดออกมาอีกหลายรุ่น แอนดรอยด์ใช้เวลาเพียง 27 เดือน ก็แซงหน้าผู้นำอัจฉริยะอย่าง สตีฟ จ๊อบส์ ไปเรียบร้อย ก็ยืนยันว่า ซอฟต์แวร์ระบบเปิดให้ใครใช้ประยุกต์ทำก็ได้ ดีกว่าแอบคิดทำเจ้าเดียวแล้วไปจดลิขสิทธิ์ทำกำไรแต่เพียงผู้เดียว

1.ผู้บริโภคนิยมมีของให้เลือกมากกว่า เพราะไอโฟนถือว่าเป็นหนึ่งเดียว แต่กรณีแอนดรอยด์ก็มีให้เลือกนับสิบ จากตัวเลขสถิติล่าสุดที่สำรวจในท้องตลาดจนถึงเดือนมกราคมที่ผ่านมาปีนี้ ปรากฏว่ามีมือถืออัจฉริยะที่ใช้สำหรับแอนดรอยด์ 74 รุ่น ที่เป็นของกูเกิ้ลแอนดรอยด์ แต่ของแอนดรอยด์ทุกบริษัทรวมกันมีถึง 170 รุ่น ให้เลือกในท้องตลาด ส่วนไอโฟนจะออกตัวแต่ละรุ่นใช้เวลา เช่น ล่าสุดเป็นเวริซอนไอโฟน 4 เพราะฉะนั้นทางเลือกจึงไม่มาก
2.การบูรณาการร่วมกับระบบอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นของกูเกิ้ลเอง ร่วมกับเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ได้ง่ายกว่าเพราะออกแบบมาเป็นระบบเปิดจึงทำให้ได้รับความนิยมสูงกว่าในช่วงสั้น ๆ
3.ระบบเปิดของตลาดแอนดรอยด์ทำให้บริษัทต่าง ๆ หลายบริษัทสามารถใส่ “แอพส์” หรือ แอพพลิเคชั่นได้มากและหลากหลายมากกว่าแอปเปิ้ลมาก
4.แอพพลิเคชั่น เป็นที่ต้องการของผู้ใช้มากแต่ก็ไม่ฟุ่มเฟือย แต่กรณีของแอนดรอยด์มี แอพส์ (Apps) น้อยกว่า แอปเปิ้ล มากแต่ทุกแอพส์จะเป็นตามความต้องการของผู้ใช้มากกว่า คือ แอนดรอยด์ มี 150,000 แอพส์ แต่แอปเปิ้ลมีถึง 350,000 แอพส์ ซึ่งมีหลายอันที่ผู้ใช้ไม่มีโอกาสได้ใช้เลย
5.นำของที่ดีที่สุดมาจากทุกค่ายแล้วนำเสนอสู่ท้องตลาด เพราะกูเกิ้ลเองไม่ได้หวงซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการมือถืออัจฉริยะ คือนำไปใช้ได้โดยไม่คิดเงิน ใครอยากจะมีอะไรต่อเติมเพื่อสร้างมือถืออัจฉริยะให้มีลูกเล่นน่าใช้อย่างไร ก็สามารถทำได้ ไม่เหมือนกับแอปเปิ้ล จะไปแตะต้องซอฟต์แวร์ของเขา แอปเปิ้ลคงคิดค่า “สมองอัจฉริยะ” ของ สตีฟ จ๊อบส์ แพงมาก

รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stamford.edu
แอนดรอยด์ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1
ที่มา siamphone
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น