9 ข้อเจาะลึก 3 แอนดรอยด์โฟนสุดร้อนแรง Cooper / A99 / Defy

3 แอนดรอยด์โฟน ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงสุดสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy Cooper, Wellcom A99 และ Motorola Defy ที่มาเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนสเปกดี ในช่วงราคา 9,900 - 12,900 บาท ในงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2011

เปรียบสเปก A99 กินขาด

ถ้าจับเครื่องทั้ง 3 รุ่น มาเทียบกันในส่วนของสเปกแล้ว เชื่อว่า A99 ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 1 GHz คงจะกินขาดเหนือ Defy ที่ใช้ Cortex-A8 800MHz ที่ให้ ROM 2GB RAM 512 MB เท่ากัน ท้ายสุดคือ Cooper ที่ใช้ Qualcomm MSM7227-1 Turbo 800 MHz แต่มาพร้อม ROM / RAM 512 MB เท่านั้นเอง

ดีไซน์-วัสดุ

เครื่องทั้ง 3 รุ่น ที่ร้อนแรงและอยู่ในกระแสขณะนี้ ต่างมีลักษณะการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ทำให้ยากที่จะตัดสินใจได้ว่า รุ่นไหนสวย และน่าใช้งานกว่ากัน แต่ยอมรับได้เลยว่า การประกอบของเครื่องทั้ง 3 รุ่น อยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับราคาที่วางจำหน่าย

แต่ Defy กลับมีจุดเด่นที่เหนือกว่าอีก 2 รุ่น คือตัวเครื่องสามารถป้องกันการตกน้ำและตกกระแทกได้ในระดับหนึ่ง จากวัสดุที่ใช้ยางหุ้มตัวเครื่อง ซึ่งขณะนี้มีวิดีโอทดสอบนำ Defy ไปแช่น้ำปรากฏในยูทูป

A99 ตกม้าตาย มัลติทัช

ในการใช้งานจริง ความรู้สึกของการตอบสนองทางด้านความเร็วของหน่วยประมวลผลนั้นแทบไม่แตกต่างกัน จุดสำคัญที่รองรับการตอบสนองคือ การรับสัมผัสของหน้าจอ ที่ในจุดนี้ A99 ต้องตกรอบไปอย่างหน้าเสียดาย เนื่องจากไม่รองรับการมัลติทัชสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ Cooper และ Defy สามารถใช้งานมัลติทัช 2 จุดได้อย่างแนบเนียน

ขนาดหน้าจอแล้วแต่ชอบ

ไล่กันจากขนาดเล็กสุดของ Cooper ที่ 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล ขณะที่ Defy มีหน้าจอขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 480 x 854 พิกเซล และ A99 ที่ 4.1 นิ้ว ที่ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ทำให้ขนาดเครื่องของทั้ง 3 รุ่น แตกต่างกันออกไปเป็น 112.4 x 59.9 x 11.5 มม., 107 x 59 x 13.4 มม. และ 122 x 66 x 10 มม. น้ำหนัก 113 กรัม, 118 กรัม และ 143 กรัม ตามลำดับ

ในจุดนี้คงขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็กพกพาสะดวก หรือต้องการแอนดรอยด์โฟนหน้าจอขนาดใหญ่ รองรับวิดีโอความละเอียดสูง ซึ่งก็ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน แต่จุดที่ทำให้ Defy โดดเด่นขึ้นมาจากพวกคือกระจกหน้าจอที่ใช้เป็น Gorilla Glass

A99 ถ่ายวิดีโอไฮเดฟฯ

แม้ว่าเครื่องทั้ง 3 รุ่นจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช เช่นเดียวกัน แต่จุดที่ขาดหายไปของ Cooper และ Defy คือยังไม่รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง (720p) ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตเมื่อมีการอัปเกรดเฟิร์มแวร์จะช่วยให้เครื่องสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้เช่นเดียวกัน

Defy มากับ 2.1 (Eclair)

ต้องยอมรับว่าในต่างประเทศ Defy ถูกวางจำหน่ายมาในระยะเวลาพอสมควรแล้วก่อนนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทำให้เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่ใช้ยังคงเป็น 2.1 แต่ทั้งนี้ข้อมูลภายในเว็บระบุว่า ตัวเครื่องสามารถอัปเกรดเวอร์ชันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที (OTA Upgrade) ส่วน Cooper และ A99 ที่เพิ่งวางจำหน่ายนั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.2.1 ที่มีการใส่ภาษาไทยเข้าไป ช่วยให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น

คีย์บอร์ด Cooper-Defy ชนะด้วย Swype

การป้อนข้อมูลในสมาร์ทโฟนถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งในจุดนี้ Cooper และ Defy ทำได้ค่อนข้างดีในการสร้าง Swype คือบอร์ด ที่สามารถใช้นิ้วลากแทนการสัมผัสทีละตัวอักษร แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้มีนักพัฒนาคนไทยพัฒนาคีย์บอร์ดที่ชื่อ Tswipe ขึ้นมาจำหน่ายในแอนดรอยด์มาเก็ต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ได้ใช้กัน

อินเตอร์เฟส A99 มาเปลือยๆ

ในขณะที่ Cooper มากับอินเตอร์เฟสนาม TouchWIZ ที่ปูพรมพื้นฐานมาหลายรุ่นแล้วในตระกูลแอนดรอยด์ รวมถึงรุ่นพี่อย่าง Galaxy S ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Defy เองก็มาพร้อมกับอินเตอร์เฟสของโมโตโรล่านาม Blur มาครอบหน้าเปล่าๆ ของแอนดรอยด์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน

แต่ A99 กลับไม่มีการพัฒนาในส่วนนี้ มาพร้อมกับอินเตอร์เฟส Vanilla ที่มากับแอนดรอยด์ทั่วไป ซึ่งในจุดนี้ผู้ที่มีความรู้ชอบปรับแต่งคงชื่นชอบที่สามารถเลือกอินเตอร์เฟสที่ต้องการมาใส่ แต่ในฐานะคอนซูเมอร์ทั่วไปแล้ว การที่มาแบบเพียวๆ อาจจะทำให้มองว่าแอนดรอยด์ใช้งานยากก็เป็นได้

ราคา-โปรโมชัน

แผนการทำตลาดแบบตั้งราคาเปิดตัวไว้ราคาหนึ่ง และทำโปรโมชันขายอีกราคาหนึ่งกลับมาระอุอีกรอบ ในงานไทยแลนด์โมบายเอ็กโป 2011 ไล่ตั้งแต่ Cooper ที่มีการปรับราคาล่าสุดลงมาเหลือ 9,900 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งไว้ 10,900 บาท ทำให้ A99 เห็นท่าไม่ดี ปรับราคาตามลงมาอยู่ที่ 9,900 บาทเช่นกัน จากราคาเปิดตัว 11,900 บาท ขณะที่ Defy ที่เพิ่งแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย วางราคาเปิดตัวไว้ที่ 12,900 บาท แต่ภายในงานมีจำหน่ายในราคา 8,900 บาท 4 เครื่องต่อวัน

เชื่อว่าการทำตลาดของเครื่องในระดับราคาหมื่นบาท ยังคงมีความสนุกไปอีกระยะหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นช่วงที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากจากปัจจัยการเติบโตของสมาร์ทโฟน การขยายตัวของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคหันจากฟีเจอร์โฟนเข้ามาในตลาดสมาร์ทโฟนราคาจับต้องได้มากขึ้นนั่นเอง

เครื่องทั้ง 3 รุ่นนี้ จึงถือเป็นรุ่นเด่นที่น่าจับตามองในตลาดแอนดรอยด์โฟนขณะนี้ ถ้าต้องการสเปกแรกแซงโค้ง A99 เป็นคำตอบ แต่ถ้าอยากได้เครื่องทน ถึก กันน้ำ ขนาดเล็กน่าพกพา Defy ก็มาแรง แต่ถ้ามองในแง่ของราคาคุ้มกับองค์ประกอบโดยรวม Cooper ยังได้อานิสงค์จากแบรนด์ซัมซุงอยู่เช่นเดิม

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน