แอนดรอยด์อันตรายกว่าไอโฟน

เทรนด์ไมโคร ผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนติไวรัสชื่อดังเผย ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนอนาคตไกลอย่างแอนดรอยด์นั้นมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยมากกว่าไอโฟน โดยแอนดรอยด์มีความเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและไวรัสมากกว่าแพลตฟอร์มของแอปเปิล เชื่อในอนาคต ผู้ใช้แอนดรอยด์จะหาซื้อหาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสมาใช้มากกว่ากลุ่มผู้ใช้ไอโฟน

สตีฟ ชาง (Steve Chang) ประธานบริษัทเทรนด์ไมโคร ให้สัมภาษณ์ที่กรุงไทเป เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจการรักษาความปลอดภัยดิจิตอลในอุปกรณ์สมาร์ทโฟน โดยกล่าวว่าความเป็นระบบเปิดของแอนดรอยด์มีส่วนทำให้นักเจาะระบบสามารถทำความเข้าใจสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มและชุดคำสั่งได้อย่างละเอียด ทำให้แอนดรอยด์มีความเสี่ยงถูกคุกคามโดยไวรัสสูง ต่างจากแพลตฟอร์มไอโฟน

"เราต้องให้เครดิตแอปเปิล เพราะแอปเปิลระมัดระวังตรงนี้มาก ทำให้ไม่มีความเป็นไปได้เลยสำหรับการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์"

คำว่าระบบเปิดของแอนดรอยด์ที่ชางพูดถึง คือการที่ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นอย่างกูเกิลเปิดเสรีให้นักพัฒนาทั่วโลกร่วมกันพัฒนาชุดคำสั่ง เพื่อให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสามารถนำแอนดรอยด์ไปใช้งานได้ฟรี ตรงกันข้ามกับแอปเปิลที่ซุ่มพัฒนาเอง และกำหนดให้แอปพลิเคชันทุกชิ้นต้องถูกตรวจสอบและอนุมัติก่อน จึงจะมีสิทธิ์เปิดให้ดาวน์โหลดบนร้านออนไลน์

จุดนี้ทำให้ชางเชื่อว่าผู้ใช้แอนดรอยด์จะซื้อซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น

"สมาร์ทโฟนคือคอมพิวเตอร์พีซียุคหน้า และเมื่อสมาร์ทโฟนเริ่มนำมาใช้ในวงการธุรกิจ อุบัติเหตุเรื่องข้อมูลสูญหายจะเป็นปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วง"

เทรนด์ไมโครเชื่อในแนวคิดนี้จนออกผลิตภัณฑ์ชื่อ Mobile Security for Android แอปพลิเคชันล่าสุดซึ่งสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ติดตั้งในเครื่องเพื่อป้องกันการติดไวรัส โปรแกรมร้าย และสายโทร.เข้าที่ไม่ต้องการ สนนราคา 3.99 เหรียญ คาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ที่เชื่อว่าจะมีจำนวนถึง 250 ล้านเครื่องในปี 2014 (ข้อมูลจาก Gartner)

ภัยคุกคามเดียวที่น่าเป็นห่วงสำหรับไอโฟน เทรนด์ไมโครมองว่าคือการล่อลวงที่ใช้เหตุการณ์ทางสังคมเป็นเครื่องบังหน้า เช่นการใช้ข่าวหรือบุคคลที่เป็นกระแสเพื่อดึงความสนใจผู้บริโภค ซึ่งก็เชื่อกันว่าจะไม่ส่งผลในวงกว้าง

ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มีสัดส่วนการใช้งานราว 26% ในตลาดโลกช่วงไตรมาส 3 ของปี 2010 ที่ผ่านมา ตามหลังซิมเบียน (Symbian) แต่นำหน้าไอโอเอส (iOS) ซึ่งมีสัดส่วน 17% คาดว่าปี 2014 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะมีจำนวน 259 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 29.6% ของตลาดรวม เป็นรองซิมเบียนที่เชื่อว่าจะมีสัดส่วน 30.2% แซงไอโอเอสซึ่งคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 15%
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน